
หมากเหลือง (Yellow Palm, Butterfly Palm ชื่อวิทยาศาสตร์: Dypsis lutescens) เป็นปาล์มประดับที่มีกำเนิดมาจากมาดากัสการ์ ปาล์มชนิดนี้เป็นปาล์มแตกกอซึ่งสามารถขึ้นสูงได้ถึง 8 เมตร ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางความกว้างระหว่าง 4-8 เซนติเมตร ลำต้นและคอใบมีการเปลี่ยนแปลงสีตั้งแต่สีเหลืองส้มจนถึงสีเขียว
ใบมีรูปร่างคล้ายขนนกและยาวประมาณ 2 เมตร ช่อดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน และออกที่คอ ดอกมีขนาดยาวประมาณ 50-70 เซนติเมตร ผลลูกมีรูปรีและขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร โดยสีจะเปลี่ยนเมื่อสุกเป็นสีเหลืองส้ม การขยายพันธุ์ของหมากเหลืองสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ดหรือการแยกหน่อ
ลักษณะทั่วไปของต้นหมากเหลือง
ลำต้น : มีทรงกลมและตั้งตรง มีการแตกหน่อออกเป็นกอใหม่รอบๆ ต้นแม่ โตเต็มที่สามารถสูงถึง 8 เมตร โดยขนาดของลำต้นอยู่ที่ 4-8 เซนติเมตร โคนต้นมีสีเหลืองส้มหรือเขียวอมเหลือง ส่วนปลายของลำต้นมีสีขาวปกคลุม
ใบ : มีลักษณะใบประกอบคล้ายขนนก กาบใบหุ้มลำต้น มีสีเหลืองอมส้ม ความยาวประมาณ 1.5-2 เมตร ใบย่อยเรียงเยื้องสลับแถวกัน มีลักษณะเรียวยาว คล้ายใบมะพร้าว กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 40-60 เซนติเมตร
ดอก : มีดอกช่อยาวประมาณ 60-100 เซนติเมตร แตกแขนงออกเป็นช่อย่อยที่ปลายช่อ ดอกของต้นหมากเหลืองเป็นดอกที่ไม่สมบูรณ์เพศ แต่จะแยกเพศอยู่คนละต้น
ผล : ต้นหมากเหลืองมีผลที่ติดเป็นช่อ แต่ละผลมีรูปร่างที่แตกต่างกันไป ขนาดประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ผลดิบมีสีเขียว สุกแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม และสุกจนแก่ก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงอมดำ แต่ละผลมีเมล็ดแค่ 1 เมล็ด

การปลูก : ต้นหมากเหลืองเป็นไม้ที่เหมาะสำหรับการปลูกในสวนหรือบริเวณในบ้าน เพราะมีความสูงไม่เกิน 8 เมตรและไม่ต้องการการดูแลมาก สามารถปลูกได้ทั้งในบริเวณที่ต้องการพรางแสง ป้องกันสายตา และกรองฝุ่น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันสภาพอากาศไม่เหมาะสมเข้ามาในบ้านได้
สภาพพื้นที่ : ต้นหมากเหลืองเป็นไม้ที่เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ร้อนชื้น มีการเพาะขยายพันธุ์ไปยังทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และถือเป็นต้นไม้ที่นิยมในการนำมาตกแต่งสวนในประเทศไทย
ติดตามไม้ประดับเพิ่มเติม :: ต้นไม้ประดับ