
ยางอินเดีย เป็นต้นไม้ที่กระแสดีไม่มีตกจริง ๆ เพราะยังมีคนหาซื้อมาปลูกในบ้านกันเรื่อย ๆ แถมยังปลูกขายได้ราคาดีอีกต่างหาก สำหรับคนที่อยากจะซื้อต้นยางอินเดียมาจัดสวน หรือแต่งบ้าน และอยากรู้ว่าต้นไม้ชนิดนี้เขาปลูกกันยังไง ต้องดูแลแบบไหน ตายง่ายรึเปล่า มีประโยชน์อะไรบ้าง ตามเราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย
ถิ่นกำเนิดต้นยางอินเดีย
ยางอินเดีย (Rubber Plant หรือ Indian Rubber Tree) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus Elastica มีต้นกำเนิดในเอเชีย พบได้ในหลายประเทศทั้งอินเดีย เนปาล จีน พม่า มาเลเซีย และอื่น ๆ รวมถึงในไทย บางพื้นที่เรียกกันว่า ต้นยางลบ เพราะเมื่อน้ำยางจากต้นแข็งตัวและจับตัวเป็นก้อน สามารถนำมาใช้แทนยางลบได้นั่นเอง

ลักษณะต้นยางอินเดีย
ยางอินเดีย เป็นไม้ยืนต้น มีทั้งแบบไม้พุ่มและไม้เลื้อย จัดอยู่ในวงศ์ Moraceae ลักษณะเด่นของยางอินเดียคือ ใบเดี่ยวทรงรีหรือไข่ ปลายเรียวแหลม ขอบเรียบ ผิวใบมันวาว ใบหนา เมื่อแตกยอดอ่อนจะมีสีแดงระเรื่อก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หรือสีอื่น ๆ ตามสายพันธุ์ เมื่อลำต้นโตเต็มที่จะสามารถสูงได้มากถึง 30 เมตร และมีรากอากาศห้อยย้อยออกมา ออกดอกสีขาว กลีบดอกใหญ่ เรียงสลับกัน 2 ชั้น และมีผลสดกลมรี เปลือกสีเขียว คล้ายหมาก
เนื่องจากอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นไทรใบสัก ทำให้บางคนสับสนระหว่างต้นไม้ 2 ชนิดนี้ ซึ่งสามารถสังเกตความแตกต่างได้จากใบ เพราะใบของไทรใบสักจะมีขนาดใหญ่กว่า ผิวใบด้านสีเขียวอ่อน ขอบหยักเล็กน้อย และมีเส้นใบชัดเจน

สายพันธุ์ต้นยางอินเดียยอดนิยม ยางอินเดียมีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ที่นิยมปลูกในไทยมีประมาณ 3 สายพันธุ์ ได้แก่
1.ยางอินเดีย (Ficus elastica decora) นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง มีลำต้นขนาดใหญ่ แข็งแรง ใบหนาดก สีเขียวสด ผิวใบมัน เพาะพันธุ์ง่าย เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน
2.ยางอินเดียด่าง (Ficus elastica variegata) ชนิดที่มีใบสีเหลืองสลับเขียวอ่อน ไม่แข็งแรงเท่าสายพันธุ์แรก แต่ก็สามารถปลูกได้ในไทย และเป็นที่นิยมของนักสะสมเช่นเดียวกัน
3.ยางอินเดียดำ (Ficus elastica Black Prince หรือ Black Knight) สายพันธุ์ที่นิยมปลูกประดับบ้านมากที่สุด มีลักษณะเด่นคือ ใบสีแดงเมื่อแตกยอดอ่อน ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มไปถึงดำเมื่อโต

การดูแล การดูแลต้นยางอินเดียครอบคลุมเรื่องตัดแต่งกิ่งก้านเพื่อให้พุ่มเป็นรูปทรงที่สวยงาม นอกจากนี้ในกรณีของต้นยางอินเดียที่ปลูกในกระถางควรเช็ดทำความสะอาดใบบ่อย ๆ เพื่อล้างคราบและเกลือที่อาจสะสมอยู่บนใบทิ้ง การให้ปุ๋ยน้ำเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อปลูกในกระถางควรใส่ปุ๋ยน้ำเดือนละครั้ง และควรเปลี่ยนดินทุกปีเพื่อให้รากเติบโตและเจริญเติบโตได้ดี
การรักษาโรคและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ต้นยางอินเดียมีโอกาสเป็นโรครากเน่าเมื่อรดน้ำเกินไปทำให้ดินแฉะ ดังนั้นควรรักษาให้ความสำคัญกับการรดน้ำให้เหมาะสม โรคใบเหลืองหรือใบร่วงอาจเกิดขึ้นเนื่องจากขาดน้ำ ดังนั้นควรรดน้ำเพียงพอและตามความต้องการของต้นไม้ค่ะ
ประโยชน์ของต้นยางอินเดีย
- ประดับบ้าน : ใบสีเขียวเข้มของต้นยางอินเดียทำให้เป็นต้นไม้ประดับที่เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องและบ้านให้มีความสวยงาม ร่มรื่น และสดชื่น
- ฟอกอากาศ : ต้นยางอินเดียเป็นต้นไม้ที่มีความสามารถในการลดสารพิษในอากาศ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เกิดอากาศบริสุทธิ์และสะอาดในบริเวณใกล้ต้นไม้
- ใช้เพื่อนำมาประดับพิธีการ : ใบยางอินเดียมักถูกนำมาใช้ในการประดับพิธีการเช่นงานศพ โดยใส่ใบยางลงในพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจและความอาลัย
- ใช้เป็นวัสดุแทนยางลบ : ขณะที่ยางจากต้นยางอินเดียแข็งตัวจะเป็นก้อนและใช้แทนยางลบได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นที่ยางกำลังแข็งตัว
ติดตามไม้ประดับเพิ่มเติม :: ไม้ประดับ